วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

ข้อมูลหุ้น NPK

บริษัท นิวพลัสนิตติ้ง จำกัด (มหาชน)

ประกอบธุรกิจ
โรงงานอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม ได้แก่ ถุงน่อง ถุงเท้า  ชุดชั้นในสตรี ชุดกายบริหาร ชุดนอน

โครงสร้างรายได้ของบริษัท
1.รายได้จากถุงน่อง ถุงเท้า                               77.07%
2.รายได้จากชุดชั้นใน ชุดกายบริหาร ชุดนอน   21.89%
3.รายได้อื่นๆ                                                        1.04%

ฐานลูกค้าบริษัท
จำหน่ายให้บริษัท นิวซิตี้ (กรุงเทพฯ) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 14.79%
แล้วนำไปจำหน่ายผู้บริโภคทั่วไปภายใต้ BRAND CHERILON

ผู้ถือหุ้นใหญ่
        บริษัท บุญวัฒนโชค จำกัด                         27.38%
        บริษัท ยูนีเวอร์สบิวตี้ จำกัด                        15.99%
        บริษัท นิวซิตี้ (กรุงเทพฯ) จำกัด (มหาชน)  14.79%

ทุนจดทะเบียน  10 ล้านหุ้น หุ้นละ  10 บาท

กำไรต่อหุ้น                                มูลค่าหุ้นทางบัญชี 
ปี 2551   =          0.43                          -5.6
ปี 2552   =          7.54                           1.9
ปี 2553   =          6.09                           8.0
9เดือน.2554 =    5.48                        13.55


ปัจจัยเด่น
- ราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย = 1.20 บาท ซึ่งช่วงนั้นมีผลการดำเนินงานขาดทุนหนัก  -3.14 บาทต่อหุ้น
ปัจจุบันผลิกกลับมามีกำไรโดยเฉลี่ยปีละ  7 บาทต่อหุ้น (3 ปีล่าสุดโดยประมาณ)

- จำนวนหุ้นหมุนเวียนน้อยมาก เพียงแค่ 45% ของ 10 ล้านหุ้น (55% ติด silent period)

>>> เทียบกับ บริษัทที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจที่คล้ายกัน คือ WACOAL และ SABINA
    WACOAL  P/E = 12.58 เท่า  P/BV = 1.16 เท่า จำนวนหุ้น 120 ล้านหุ้น
    SABINA     P/E = 81.43 เท่า  P/BV = 6.18 เท่า จำนวนหุ้น    70 ล้านหุ้น

      จากการประเมิน ถ้านำ P/E และ P/BV ของ SABINA มาประเมินจะพบว่ามีราคาที่สูงมากผิดปกติ
      ยากที่จะนำมาคิดได้ต่อว่าจะลงทุนราคาหุ้นที่ระดับ RATIO ที่สูงขนาดนี้ด้วยเหตุผลอะไร จึงไม่ขอนำมาคำนวณในกรณีนี้


 แต่หากนำ P/E และ P/BV ของ WACOAL มาประเมินจะได้ราคาที่เหมาะสมดังนี้
  P/E = 12.58 เท่า  ราคาหุ้น NPK = 88.06 บาท 
  P/BV = 1.16 เท่า  ราคาหุ้น NPK = 15.72 บาท

 ประเมินราคาหุ้นที่ควรจะเป็น = นำทุกวิธีการประเมินเปรียบเทียบมารวมกันแล้วหาค่าเฉลี่ย
 = (88.06 + 15.72)/2 = 52.89 บาท

>>> เทียบกับ บริษัทที่ในอดีตหยุดการซื้อขายแล้วกลับเข้ามาซื้อขายใหม่ โดยไม่มีการเปลี่ยนธุรกิจ หรือ เพิ่มจำนวนหุ้น คือ MALEE   P/E = 10.42 เท่า  P/BV =  3.11 เท่า จำนวนหุ้น 70 ล้านหุ้น
  P/E = 10.42 เท่า  ราคาหุ้น NPK = 70.00 บาท 
  P/BV = 3.11 เท่า  ราคาหุ้น NPK = 42.14 บาท

 ประเมินราคาหุ้นที่ควรจะเป็น = นำทุกวิธีการประเมินเปรียบเทียบมารวมกันแล้วหาค่าเฉลี่ย
 = (70.00 + 42.14)/2 = 56.07 บาท

มุมมองส่วนตัว
>>> จากการประเมินทั้ง 2 วิธี พบว่า ได้ราคาใกล้เคียงกัน จึงคาดการณ์ว่า ราคาซื้อขาย จะอยู่บริเวณ 50-60 บาท และสิ่งที่ต้องระวังคือ หุ้นอาจจะไม่มีสภาพคล่องในการซื้อขาย เนื่องจากมีจำนวนหุ้นที่น้อยเกินไป และราคาซึ่งสูงจากในอดีตที่ราคา 1.20 บาทมาก อาจจะทำให้ไม่มีรายย่อยกล้าเข้าไปซื้อ จึงทำให้ไม่มีความคึกคัก และขาดสภาพคล่องได้ (แต่หากมองอีกมุมว่า มีหุ้นน้อย ไม่มีคนซื้อมาก ราคาก็อาจจะถูกลากได้ง่ายเช่นกัน)









หมายเหตุ
>>> ในการลงทุนหุ้นชนิดนี้ โปรดใช้วิจารณญาณและความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งครับ
>>> ข้อมูลในนี้เป็นเพียงการหาข้อมูลจากรายงานที่อยู่ใน www.set.or.th และประกอบการพิจารณาโดยมุมมองส่วนตัวเท่านั้น
ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับใครหรือบริษัทใด รวมทั้งไม่รับประกันถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นจากการนำข้อมูลไปใช้ในการลงทุน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น